สำหรับใครก็ตามที่ชอบการดูหนังก็คงต้องผ่านเรื่องราวของการรอคอยบางสิ่งบางอย่าง โดยบางทีการรอคอยนั้นอาจจะเป็นการรอคอยที่ยาวนาน แต่เมื่อเราเข้าใจกับความหมายของการรอคอยจริงๆแล้วเราก็คงจะรู้สึกดีกันมากๆ เมื่อพบเจอกับเป้าหมายที่เรารอคอยมานานแสนนาน และในวันนี้เราก็จะพาทุกคนมาดูหนังที่มาจากประเทศเกาหลีที่จะนำพาแต่ความรู้สึกดีๆเข้ามาสู่ในหัวใจของเรา โดยเหล่านั้นจะทำให้ทุกคนได้หวนถึงความรักอันแสนหวานกับอดีตในวันวานไปกับหนังที่มีชื่อเรื่องว่า Waiting for Rain รอวันฝนพรำ เราอาจจะไม่แน่ใจว่าหนังเรื่องนี้ใช่หนังรักหรือเปล่า เพราะว่าบางทีแล้วนั้นจะมีความดราม่าที่สร้างน้ำตาออกมามีอยู่บ่อยๆ แต่เราต้องขอชื่นชมในการสร้างองค์ประกอบในภาพรวมของหนัง พี่ยังคงสามารถประคองประเด็นหลักที่ต้องการจะถ่ายทอดโดยมีประเด็นร้องเข้ามาแทรกได้อย่างลงตัวเป็นการทำหนังที่มีความน่าสนใจสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นความสมบูรณ์แบบอย่างหนึ่งได้เลย
โดยเรื่องราวของการรอภายในหนัง Waiting for Rain รอวันฝนพรำ ฉันนำพาให้เราได้ไปพบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตัวของเขานั้นในตอนนี้ยังคงไม่มีความฝันในอนาคตที่จะใช้ชีวิตในวันข้างหน้าเลย แต่ต้องเขาก็ได้พยายามอ่านหนังสือเพื่อทบทวนตำรามาแล้วกว่า 3 ปีโดยเขาตั้งเป้าที่จะเข้ามหาลัย และก็ได้ทำให้เขานั้นได้ตัดสินใจส่งข้อความผ่านจดหมายไปถึงโซยอน ผู้เป็นเพื่อนสนิทของเขาที่เล่นมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก แต่โซฮีผู้ที่เป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทกับได้มาเปิดอ่านแทนและน้องสาวคนนี้ก็ยังเขียนจดหมายตอบกลับมาอีกด้วยเพราะว่าในตอนนี้พี่สาวของเธออย่างโซยอนกำลังป่วยอยู่ แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่เคยทราบเลยว่าผู้ที่ตอบคำถามเขานั้นเธอนั้นก็คือโซฮี แต่เรื่องราวเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความต้องการพบเจอกันและระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาวที่พวกเขานั้นอย่าเจอกันมากๆ แต่ด้วยที่พวกเขาอาศัยอยู่ในคนละเมืองกันและก็มีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไปอีกด้วย และในสุดท้ายแล้วนั้นเนื้อเรื่องทั้งหมดจะลงเอยจบลงแบบไหนเราคงต้องไปติดตามดูหนังเรื่องนี้กัน
หนังเรื่องนี้นั้นได้ผู้กำกับคนเก่งอย่างโจจินโมที่เขานั้นไม่ค่อยทำหนังขึ้นมาบ่อยๆนานๆทีจะมารับงานกำกับหนัง แต่ในครั้งนี้เขาได้คู่หูนักเขียนมือเป็นยูซงฮยอบที่เป็นการรียูเนียนการกลับมาทำงานร่วมกัน โดยพวกเขานั้นจะวางโครงเรื่องให้หนังเรื่องนี้โดยมีเรื่องราวของความรักโรแมนติกบังหน้าแต่ก็ได้ใส่เนื้อหาที่เป็นประเด็นหลักมีทั้งเรื่องของประเด็นต่างๆของชีวิตที่ได้มีการเล่าเรื่องออกมามีความน่าสนใจและให้คำสอนเตือนใจในท้ายที่สุด
ถ้านับความสนุกจากการดูหนังเรื่อง Waiting for Rain ให้การไปคะแนนเราก็พูดได้คำเดียวเลยว่าคะแนนเต็มแน่นอนเพราะไม่รู้ว่าจะนำเรื่องอะไรมาหักคะแนนดีหนังเรื่องนี้นั้นในหลายอย่างก็ดูเข้ากันอย่างลงตัว อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างเล็กน้อยแต่ถ้ามองในภาพรวมแล้วนี่แหละคือหนังที่เรานั้นควรดูและติดตามชม แบบไม่คลาดสายตา